10 เมนูอาหาร ลดความอ้วน

จานอาหารเพื่อสุขภาพประกอบด้วยผักสดและกุ้งลวก

  10 เมนูอาหาร ลดความอ้วน การลดความอ้วนดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่ยากแต่ความจริงแล้วการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะการมีวินัยในการกินต้องฝึกจนเป็นนิสัย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการลดความอ้วนและสามารถรักษาน้ำหนักให้เป็นไปตามเกณฑ์ได้ในระยะยาว ดังนั้นการมีหลักการลดน้ำหนักและเลือกกินอาหารอย่างถูกต้องคือสิ่งที่ต้องตระหนัก 

“ 10 เมนูอาหารลดความอ้วน  ปรับพฤติกรรมการกิน

ผู้หญิงในชุดคลุมอาบน้ำกำลังถือไก่ทอดอยู่หน้าตัวเอง มีอาหารจานด่วนและของหวานต่างๆ วางอยู่รอบตัว

โรคอ้วน คืออะไร

   โรคอ้วน คือ ภาวะที่ร่างกายมีการสะสมไขมันมากเกินกว่าปกติหรือมากเกินกว่าที่ร่างกายจะเผาผลาญ จึงสะสมพลังงานที่เหลือเอาไว้ในรูปของไขมันตามอวัยวะต่างๆ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ และเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ตามมา

พฤติกรรมการกิน ทำให้อ้วนไม่รู้ตัว

  1. กินเร็ว เพราะการกินเร็วทำให้เราเคี้ยวข้าวไม่ละเอียด กระเพาะเรายังไม่ทันรับรู้ถึงความรู้สึกอิ่ม จึงทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่อิ่มสักที เพราะแบบนี้เราถึงกินอาหารเข้าไปมากกว่าปกติ ดังนั้นทางที่ดีคือควรกินแบบช้าๆ ค่อยๆ กิน เคี้ยวให้ละเอียด จะช่วยได้มากเลยทีเดียว

   2. การกินจุกจิกหรือกินของหวาน ของจุกจิกที่กินเข้าไปส่วนมากก็ล้วนทำมาจากแป้งทั้งนั้น นี้อาจจะเป็นสาเหตุหลักของน้ำหนักขึ้นได้เลยทีเดียว หรือบางคนเป็นประเภทที่กินของคาวเสร็จต้องต่อด้วยของหวานมาล้างปาก ของหวานชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าหวาน ถ้านานๆ กินทีคงไม่เป็นไร แต่ถ้ากินตามท้ายในทุกๆ มื้อ รับรองว่าอ้วนแน่ๆ ทางที่ดีเปลี่ยนจากของหวานมาเป็นผลไม้ล้างปากบ้างน่าจะดีกว่า

  3.การอดอาหารเหมือนจะทำให้เราผอมลง แต่เรื่องจริงคือเปล่าเลย มันยิ่งทำให้เราอ้วนขึ้นเพราะการอดอาหารในมื้อนี้จะทำให้เราเพิ่มความอยากอาหารในมื้อหน้า และเมื่อร่างกายเรารับประทานอาหารเข้าไปจะยิ่งทำให้ร่างกายกักเก็บอาหารไว้มากกว่าเดิม ถ้าอยากจะลดความอ้วนก็ต้องกินให้ครบทุกมื้อแต่ต้องควบคุมปริมาณอาหารให้พอเหมาะ

  4. กินไปดูทีวีไป/เล่นมือถือไป เรียกได้ว่าเป็นสาเหตุใหญ่ของการอ้วนได้เลย เราอาจจะคิดว่าไม่เห็นจะเกี่ยว แต่ถ้าลองคิดดีๆ แล้วการกินอาหารหรือขนมระหว่างดูทีวีหรือเล่นโทรศัพท์มันจะเพลิน ทำให้เรากินเข้าไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้จักอิ่มและการนอนดูทีวีอยู่เฉยๆ ร่างกายเราก็ไม่ได้เผาผลาญพลังงานเลยด้วย แต่ถ้าอยากมีอะไรกินระหว่างดูหนังเล่นโทรศัพท์เปลี่ยนมาเป็นผลไม้และเครื่องดื่มก็เป็นน้ำเปล่าแทนน้ำโค้กจะดีกว่า

  5. การดื่มสังสรรค์ งานสังสรรค์อาจเป็นการให้รางวัลแก่ตัวเอง เป็นการคลายความเครียด แต่การดื่มแอลกอฮอล์ก็ไม่ดีต่อร่างกายอยู่แล้ว ยิ่งถ้าผสมกับน้ำอัดลม ทั้งปริมาณแคลอรี่ ทั้งน้ำตาล คงสูงขึ้นไปตามๆ กันเพราะเหตุนี้จึงทำให้อ้วนขึ้น ลองเปลี่ยนการสังสรรค์จากการดื่มเหล้าเป็นการให้ของขวัญ ไปเที่ยวหรืออะไรก็ตามที่ไม่โยงมาเกี่ยวกับเครื่องดื่มอันตรายพวกนี้

  6. เครียดแล้วกิน บางคนไม่รู้ตัวว่าเวลาเครียดแล้วจะกินเยอะหรือบางคนกลายเป็นติดบำบัดความเครียดโดยการกินกันเลยทีเดียว ควรหาทางคลายเครียดแบบอื่น เช่น การออกกำลังกาย การเดินเล่น หรือการหาคนคุยระบายความรู้สึกดีกว่า

  7. ออกกำลังกายแล้วกินเยอะ มีความเชื่อแบบผิดๆ ว่าเราไปออกกำลังกายหนักมาเราก็สามารถกินเข้าไปได้เยอะๆ พรุ่งนี้ค่อยเบิร์นออก แต่สิ่งที่ถูกต้องคือควรกินอาหารในปริมาณที่เหมาะสมและถ้าอยากจะลดน้ำหนักจริงๆ คุณต้องออกกำลังกายให้มากกว่าปริมาณที่คุณกินเข้าไป ถ้าคุณออกกำลังกายได้น้อยกว่าปริมาณที่คุณกินเข้าไป การลดน้ำหนักของคุณก็ไม่เป็นผล 

สูตรลับอาหารลดความอ้วน

   หากจำกัดพลังงานจากอาหารได้ไม่เกิน 800 แคลอรี่/วันจะช่วยลดความอ้วนได้อย่างรวดเร็วประมาณ10 – 15% ของน้ำหนักตัวเดิมภายใน 3 เดือน แต่การลดความอ้วนวิธีนี้อาจทำให้เกิดการขาดสารอาหารได้ จึงจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ทางด้านโภชนาการเกี่ยวกับการรับประทานวิตามินและเกลือแร่เสริม และหลังจากหยุดรับประทานอาหารจำกัดพลังงาน จะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นกลับมาอย่างรวดเร็วได้มากกว่าการค่อย ๆ ลดน้ำหนัก ดังนั้นอาจเลือกวิธีลดพลังงานจากอาหารที่เคยกินปกติวันละ 500 – 750 แคลอรี่ต่อสัปดาห์ หรือมื้อละ 200 – 250 แคลอรี่ต่อวันซึ่งการลดความอ้วนวิธีนี้จะช่วยให้ลดได้สัปดาห์ละ 0.5 – 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์

   ยกตัวอย่างเช่น หากปกติรับประทานอาหารกลางวัน โดยมีข้าว 2 ทัพพี แอปเปิ้ล 2 ลูก ปลาทอด8 ช้อนโต๊ะ และผัดผัก 1 ทัพพี พลังงานที่ได้รับจากมื้ออาหารนี้จะเท่ากับ 580 แคลอรี่ แต่หากลดแอปเปิ้ลจาก 2 ลูก เหลือ 1 ลูก และเปลี่ยนปลาทอดเป็นปลาต้ม เช่น ปลานึ่งมะนาวหรือต้มยำปลาน้ำใส จะทำให้พลังงานที่ได้รับเหลือมื้อละ 358 แคลอรี่ในการทานอาหารปกติประจำวัน การกินอาหาร 1 มื้ออาจทำให้ได้รับพลังงานมากกว่า 300 – 700 กิโลแคลอรี่ หากต้องการกำหนดพลังงานที่แน่นอนจากอาหารอาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารหรือปรึกษานักกำหนดอาหารเพื่อวางแผนการบริโภคอาหารที่เหมาะสมเป็นรายบุคคล

10 เมนูอาหารลดความอ้วน แคลอรี่น้อย 

1. ก๋วยเตี๋ยวหมูสับน้ำใส 200 กรัม มีแคลอรี่ 140 Kcal เลือกน้ำใสๆ หมูสับแบบไม่ติดมัน หรือติดมันให้น้อยที่สุด ประโคมผักเยอะๆ ปรุงรสให้น้อยเข้าไว้ และเส้นให้น้อยกว่าผักครึ่งหนึ่ง หรือจะเกาเหลาก็ได้ 

ชามก๋วยเตี๋ยวไก่เสิร์ฟพร้อมลูกชิ้น ถั่วงอก ต้นหอม ผักชี และพริก อยู่บนเสื่อไม้ไผ่ มีมะนาวและถั่วงอกวางอยู่ข้างๆ
ชามก๋วยเตี๋ยวเสิร์ฟพร้อมเนื้อหมู ลูกชิ้น ต้นหอม และกระเทียมเจียวในน้ำซุปใส

ก๋วยเตี๋ยวหมูสับน้ำใส 200 กรัม มีแคลอรี่ 140 Kcal

2. แกงส้มผักรวมกับปลา 200 กรัม 100 Kcal + ข้าวกล้อง 80 Kcal = 180 Kcal แกงส้มผักรวมสุดแซ่บ กับปลาอร่อยๆ รวมกันยังไม่ถึง 200 Kcal รับรองว่าอิ่ม อร่อย รสชาติจัดจ้านแบบไทยแน่นอน แต่ถ้าจะให้ดี ทำแกงส้มด้วยตัวเองไปเลย จะควบคุมปริมาณเครื่องปรุงที่ใส่ลงไปในแกงส้มได้ดีกว่า 

ชามต้มยำปลาที่เสิร์ฟพร้อมกับเห็ด มะนาว พริก ผักชี และเครื่องสมุนไพรต่างๆ บนเสื่อไม้ไผ่
ชามต้มยำปลาที่เสิร์ฟพร้อมกับสมุนไพรต่างๆ เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริก อยู่บนพื้นไม้

แกงส้มผักรวมกับปลา 200 กรัม 100 Kcal + ข้าวกล้อง 80 Kcal = 180 Kcal

3. แกงจืดผักกาดขาวเต้าหู้ไข่หมูสับ 200 กรัม 110 Kcal + ข้าวกล้อง 80 Kcal = 190 Kcal คนที่ไม่ทานเผ็ด มาเมนูอร่อยง่ายสบายท้อง กับแกงจืดเต้าหู้ไข่หมูสับได้เลย ยิ่งใส่สาหร่ายลงไปด้วยยิ่งเพิ่มความอร่อย แต่ถ้าจะให้แนะนำ ไม่ต้องใส่วุ้นเส้นจะดีกว่าค่ะ เพราะถ้าใส่วุ้นเส้นด้วย นอกจากจะอืดเต็มชามแล้ว ยังเพิ่มปริมาณแคลอรี่ให้สูงขึ้นไปอีก

ชามซุปเต้าหู้หมูสับที่เสิร์ฟพร้อมกับผักชี ต้นหอม และน้ำซุปใส
ชามซุปเต้าหู้หมูสับที่เสิร์ฟพร้อมกับผัก เช่น แครอท กะหล่ำปลี และน้ำซุปใส วางอยู่บนพื้นผ้า

แกงจืดผักกาดขาวเต้าหู้ไข่หมูสับ 200 กรัม 110 Kcal + ข้าวกล้อง 80 Kcal = 190 Kcal

4. โจ๊กหมู/ข้าวต้มหมู 200 กรัม 160 Kcal โจ๊กหรือข้าวต้ม ไม่จำเป็นต้องทานเป็นมื้อเช้าอย่างเดียวเสมอไป จะทานตอนเย็นก็อร่อยง่ายสบายท้องเช่นกัน แต่ถ้าจะทานเป็นตอนเย็น ลองไม่ใส่ไข่ดูก็จะดีกว่า เพราะถ้าพิเศษใส่ไข่ด้วย แคลอรี่จะเพิ่มสูงขึ้นอีก 75 Kcal ถ้าต้มโจ๊กทานเองจะซอยกะหล่ำปลี ต้นหอมผักชี แครอท บล็อคโคลี่ หรือผักที่ชอบลงไปด้วยก็ได้

ชามโจ๊กหมูที่เสิร์ฟพร้อมไข่ลวก เห็ด ต้นหอม และเครื่องเคียงต่างๆ อยู่บนโต๊ะไม้
ชามโจ๊กหมูที่เสิร์ฟพร้อมไข่ลวก ต้นหอม และขิงซอย มีเครื่องเคียง เช่น พริกหั่น ไข่ และผักชี วางอยู่บนโต๊ะ

โจ๊กหมู/ข้าวต้มหมู 200 กรัม 160 Kcal

5. ยำวุ้นเส้นหมูสับ 200 กรัม 120 Kcal อาหารยอดนิยมของสาวๆ เพราะยำเป็นอาหารรสจัด แก้เลี่ยน และวุ้นเส้นอมน้ำยำได้ดี แต่อย่าใส่วุ้นเส้นเยอะจนเกินไป เพราะนอกจากจะอืดเต็มจานง่ายแล้ว วุ้นเส้น 100 กรัม ให้แคลอรี่ 337 Kcal เพราะฉะนั้นใส่น้อยๆ แค่ 10-30 กรัม หรือราว 30-90 Kcal

จานยำวุ้นเส้นที่มีส่วนผสมของหมูสับ, ไส้กรอก, เห็ด, มะเขือเทศ, หัวหอม, ผักกาด และพริกเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องปรุงต่างๆ
จานยำวุ้นเส้นที่มีส่วนผสมของหมูสับ, ไส้กรอก, เห็ด, มะเขือเทศ, หัวหอม, ผักกาด และพริกเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องปรุงต่างๆ โดยมีจานอาหารอื่นๆ วางอยู่ข้างๆ

ยำวุ้นเส้นหมูสับ 200 กรัม 120 Kcal

6. ไข่ตุ๋น 1 ฟอง 75 Kcal + ข้าวกล้อง 80 Kcal = 155 Kcal ใครที่ไม่ค่อยอยากทานอะไรที่ย่อยยาก ลองเมนูไข่ตุ๋นดู อร่อย และทำง่ายมากๆ แถมยังเหลือปริมาณแคลอรี่ให้เพิ่มท็อปปิ้งลงบนไข่ตุ๋นได้อีกนิดหน่อย ไม่ว่าจะเป็นหมูสับ ปูอัด เนื้อปลา เห็ดหอม หรือจะแปะก๊วยเหมือนอย่างที่เราเห็นในไข่ตุ๋นญี่ปุ่นก็ได้

จานไข่ตุ๋นเนื้อเนียนเสิร์ฟในถาดอบสีขาว มีชามและช้อนส้อมวางอยู่ข้างๆ
ชามไข่ตุ๋นเนื้อเนียนโรยหน้าด้วยต้นหอม เสิร์ฟในหม้อดิน มีข้าวสวยและเครื่องเคียงเกาหลีวางอยู่ข้างๆ

ไข่ตุ๋น 1 ฟอง 75 Kcal + ข้าวกล้อง 80 Kcal = 155 Kcal

7. น้ำพริกผักสด 1 เซ็ตเล็ก 55 Kcal + ไข่ต้มครึ่งฟอง 38 Kcal + ข้าวกล้อง 80 = 173 Kcal
เต็มเซ็ตกันไปเลยสำหรับมื้อนี้ น้ำพริก ผักสด ไข่ต้ม และข้าว นอกจากรสแซ่บดั่งใจไทยแท้แล้วยังครบ 5 หมู่อีกด้วย สามารถเลือกน้ำพริกได้ตามต้องการ แต่ถ้าให้แนะนำก็ควรเลี่ยงน้ำพริกที่ผัดกับน้ำมัน อย่างเช่น น้ำพริกมะขาม น้ำพริกลงเรือ น้ำพริกอ่อง พวกนี้อาจจะเก็บไว้ทานมื้ออื่นจะเหมาะสมกว่า

ชามน้ำพริกปลาทูเสิร์ฟพร้อมแตงกวาและผักย่างต่างๆ บนพื้นไม้
ชามน้ำพริกเสิร์ฟพร้อมผักสดหลากหลายชนิด เช่น แตงกวา ผักชี มะเขือ และถั่วฝักยาว ในถาดไม้ไผ่

น้ำพริกผักสด 1 เซ็ตเล็ก 55 Kcal + ไข่ต้มครึ่งฟอง 38 Kcal + ข้าวกล้อง 80 = 173 Kcal

8. ปลานึ่งมะนาว/ปลาเผาตัวเล็ก 155 Kcal ใครไม่อยากทานแป้ง ขอให้แวะมาทานเนื้อปลาแทน ได้โปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ และรสชาติแซ่บๆ ของมะนาวก็จัดจ้าน แต่อย่าเผลอปรุงรสจัดจนเกินไปนะ ระวังท้องเสีย เน้นทานกับผักสดจะดีต่อสุขภาพ

จานปลาย่างเกลือเสิร์ฟพร้อมผักสด มะเขือเทศ และน้ำจิ้มซีฟู้ดบนพื้นไม้
จานปลาย่างเกลือเสิร์ฟพร้อมผักสดและน้ำจิ้มซีฟู้ด วางบนใบตองบนพื้นไม้

ปลานึ่งมะนาว/ปลาเผาตัวเล็ก 155 Kcal

9. ส้มตำ 120 Kcal แม้จะมีโซเดียมเยอะอาจเกิดอาการบวมน้ำได้ ลองเปลี่ยนมาเป็นส้มตำผลไม้อาจจะช่วยคุณได้มากกว่าที่คิด เพราะผลไม้แต่ละชนิดไม่ว่าจะเป็นแอปเปิ้ล ฝรั่ง องุ่น ลูกพลับ แก้วมังกร ล้วนเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยหรือมีไฟเบอร์สูง ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายและน้ำตาลน้อย

จานส้มตำไทยเสิร์ฟบนใบตอง พร้อมกับมะเขือเทศ กระเทียม มะนาว และถั่วลิสงบนพื้นไม้
จานส้มตำไทยเสิร์ฟพร้อมมะละกอสับ มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว และพริกบนพื้นขาว

ส้มตำ 120 Kcal

10. ปอเปี๊ยะสด 1 ชิ้น 175 Kcal จะบอกว่าเป็นอาหารไทยก็ไม่เชิง เพราะจริงๆ แล้วต้นตำรับมาจากประเทศเวียดนาม แต่เดี๋ยวนี้ปอเปี๊ยะได้รับการปรับปรุงสูตรจนมีสารพัดไส้ และน้ำจิ้มให้เลือกมากมาย ถ้าอยากทานแบบสุขภาพดี ก็ลองเปลี่ยนไส้เป็นไส้ผัก ไส้เห็ด ไส้หมูสับ กุ้ง และเปลี่ยนน้ำจิ้มหวานๆ ที่ราดบนปอเปี๊ยะ เป็นน้ำสลัดไขมันต่ำ หรือน้ำสลัดซีฟู้ดเพิ่มความแซ่บได้เหมือนกัน

จานสลัดโรลเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มถั่วและมะนาวหั่นชิ้นบนพื้นปูนสีขาว
สลัดโรลเสิร์ฟในถาดสีฟ้าพร้อมน้ำจิ้มถั่ว มีผักสดวางอยู่ด้านหลัง

ปอเปี๊ยะสด 1 ชิ้น 175 Kcal

วิธีการรักษาโรคอ้วน สามารถทำได้หลากหลายวิธีดังนี้

1. การปรับพฤติกรรม

  – ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกเนื้อสัตว์ที่มีไขมันน้อย หลีกเลี่ยงส่วนที่ติดมัน และหนังสัตว์ หรือรับประทานเป็น ปลา ไข่ เต้าหู้ ถั่ว ธัญพืช เป็นต้น ส่วนผักควรเลือกรับทานผักหลายสี ผลไม้ควรเลือกผลไม้ที่ให้ความหวานน้อย

  – ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนั่งๆ นอนๆ เช่นดูทีวี ดูซีรีย์ เล่นเกมส์ มาเป็นกิจกรรมที่ขยับร่างกายมากขึ้น เช่น เดินเล่น ออกกำลังกาย ชวนเพื่อนหรือครอบครัว ออกไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้าน

   – ปรับพฤติกรรมการออกกำลังกาย หมั่นออกกำลังกายให้เป็นประจำทุกวัน

2. การควบคุมน้ำหนักโดยใช้ยา การใช้ยาลดน้ำหนักควรศึกษาศึกษาถึงประโยชน์และผลข้างเคียงจากการใช้ยาและควรต้องคำนึงถึงการรักษาปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดร่วมไปด้วยได้แก่การรักษาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงภาวะไขมันในเลือดสูงและการหยุดสูบบุหรี่ทั้งนี้การใช้ยาลดน้ำหนักควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทานเพื่อให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาและแนะนำจะดีที่สุด เพราะการใช้ยาเองตามอำเภอใจจะส่งผลกระทบต่อคนที่ต้องรับประทานยาอื่นๆ อยู่และอาจยิ่งทำให้อาการป่วยที่เป็นก่อนหน้ารุนแรงขึ้น

3. การผ่าตัดกระเพาะอาหาร (Bariatric Surgery)

   – การผ่าตัดกระเพาะอาหาร เป็นการผ่าตัดเพื่อลดขนาดของกระเพาะอาหารให้เล็กลงมีรูปร่างคล้ายกล้วยหอม หรือช่วยลดการดูดซึมของอาหารเป็นการผ่าตัดเพื่อรักษาโรคอ้วนในกระเพาะอาหารมีฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดความอยากอาหาร เมื่อผ่าตัดลดขนาดกระเพาะฮอร์โมนชนิดนี้ก็จะลดลง ส่งผลให้ลดความยากอาหารไปด้วย

   – การผ่าตัดบายพาสกระเพาะอาหาร เป็นการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างของกระเพาะอาหาร โดยการนำสารอาหารข้ามกระเพาะอาหารส่วนใหญ่และลำไส้เล็กส่วนที่ดูดซึมสูงไป ไปยังลำไส้ส่วนกลางหรือส่วนปลาย ทําให้ช่วยลดปริมาณแคลอรี่เข้าสู่ร่างกาย ปรับฮอร์โมน แล้วยังลดการดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ร่างกาย

   ทุกคนห่างไกลจากโรคอ้วนได้ เพียงแค่ปรับพฤติกรรม ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องยาก เเต่ไม่ได้หมายความว่า “ทำไม่ได้” เริ่มได้ที่ตัวเราเอง ใช้เทคนิคง่ายๆ ด้วยการลดอาหารหวาน มัน เค็ม เพิ่มผักและผลไม้ในทุกมื้ออาหารให้มากขึ้น 
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เพิ่มกิจกรรมทางกาย รวมทั้งลด ละ เลิก ปัจจัยเสี่ยงอย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ห่างไกลโรคร้ายต่างๆ สร้างวิถีชีวิตที่นำไปสู่สุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *